หากใครที่ติดตามข่าวไอที จะเห็นอยู่บ่อย ๆ ว่า เกิดการขโมยข้อมูลและเรียกค่าไถ่กันอยู่เป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่องค์กรใหญ่ ๆ ในบ้านเรา ปัจจัยส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้เกิดขึ้นก็คือการตั้งค่ารหัสผ่านที่คาดเดาง่าย ทำให้เหล่า Hacker สามารถบุกเข้ามาโจมตี และโจรกรรมเอาข้อมูลที่สำคัญของเราไปได้อย่างง่ายดาย หากเราได้มีการเรียนรู้หลักเกณฑ์ในการตั้งค่าที่ดี ก็จะทำให้ความเสี่ยงในการที่ข้อมูลจะสูญหาย รั่วไหล หรือโดนโจรกรรมก็เป็นไปได้ยากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เราควรต้องเรียนรู้และจดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ
ดยส่วนใหญ่เวลาเราใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ทางเว็บนั้น ๆ จะมีการกำหนดการตั้งค่ารหัสผ่านเอาไว้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 หลักใหญ่ ๆ ที่สำคัญคือ การกำหนดความยาวของตัวอักษร การใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็ก และการกำหนดอักขระพิเศษ แต่สิ่งเหล่านี้อาจจะยังไม่พอสำหรับความปลอดภัย ดังที่ได้เห็นข่าวไอทีเป็นประจำว่ามีผู้คน และองค์กรมากมายโดนโจรกรรมข้อมูล เราจึงควรเรียนรู้เทคนิควิธีการตั้งค่ารหัสผ่านในรูปแบบต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อที่จะให้ Hacker คาดเดาได้ยาก หรือคาดเดาไม่ได้เลย เพราะจะส่งผลดีต่อเรา ทำให้ความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูลนั้นมีน้อยมากหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้
หลักเกณฑ์และสิ่งที่ควรจำเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น
- ไม่ควรนำข้อมูลส่วนตัวมาใช้ในการตั้งค่าไม่ว่าจะเป็น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ หรือแม้แต่ วันเดือนปีเกิด
- ไม่ควรใช้ข้อมูลที่คาดเดาได้ง่าย เช่น การตั้งเป็นชุดตัวเลข 12345, 123456789, 1111111, 999999, 12121212, 9876543210
- หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ง่าย ๆ เป็นรหัสผ่าน เช่น การใช้คำศัพท์เหล่านี้ admin, password, home, address, administrator
- ควรใช้การประสมคำโดยให้รหัสผ่านมีความหลากหลายของข้อมูล เช่น Q249az213Ta, Ac573Z239@, B135aA963#
- หากมีการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันกับผู้อื่นไม่ควรเลือกการจดจำรหัสผ่านเอาไว้ หากต้องมีการใช้งานร่วมกัน ควรกดออกจากระบบทุกครั้ง เหตุผลเพราะเราไม่รู้เลยว่าคนที่มาใช้งานต่อจากเราเป็นใคร และเข้าไปในเว็บไซต์ที่สุ่มเสี่ยงแค่ไหน บางเว็บไซต์อาจจะสร้างข่าวไอทีปลอมให้เรากดดู โดยมีโทรจันหรือสแปมเพื่อหลอกเอาข้อมูลหรือเจาะเอารหัสผ่านจากเครื่องที่เราใช้งานอยู่ก็ได้
- ไม่ควรตั้งรหัสผ่านเหมือนกันทุก Account เนื่องจากหากเราถูกเจาะข้อมูลเข้าไปเอารหัสผ่านส่วนตัวของ Account ใดไปแล้วนั้น เป็นไปได้ว่า เหล่า Hacker จะมุ่งเป้าหมายไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ อีกด้วย การตั้งค่ารหัสผ่านที่แตกต่างกันจะช่วยให้เราไม่ต้องเสี่ยงกับการที่จะถูกโจมตีทั้งหมด อย่างน้อยควรแยกรหัสผ่านที่ใช้กับอีเมลและเว็บไซต์ทั่วไปไม่ให้เหมือนกัน เพราะจะง่ายต่อการกู้คืนบัญชี หากบัญชีของเราถูกขโมยไป
- ควรเปลี่ยนรหัสผ่านทุก ๆ 6 เดือน เหตุผลเพื่อความปลอดภัยในการใช้รหัสผ่าน เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า รหัสผ่านของเรานั้นโดนขโมยไปแล้วหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านอยู่เสมอจะทำให้ความปลอดภัยของรหัสผ่านเรามีมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของการตั้งค่ารหัสผ่านจะเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือพฤติกรรมการใช้งานของเราเอง หากเราใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยง เราก็จะไม่ต้องกังวลกับบัญชีต่าง ๆ ของเราบนโลกออนไลน์ นอกเหนือจากนี้ หากเราไม่ไปกดลิงค์แปลก ๆ หรือกรอกข้อมูลส่วนตัวให้กับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีเราได้ พึงระลึกเสมอว่า แม้ว่าเราได้ทำการตั้งค่ารหัสผ่านที่รัดกุมและคาดเดาได้ยาก แต่หากยังมีพฤติกรรมการใช้งานที่สุ่มเสี่ยงตลอดเวลา การตั้งค่าอะไรต่าง ๆ ที่ทำมาทั้งหมดก็แทบจะไม่มีความหมายเลย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความข่าวไอทีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานทุกท่านได้เทคนิคและแนวทางในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของตนเอง เพื่อความสะดวกและความสบายใจในการใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่างมีความสุข